วันจันทร์, เมษายน 21, 2025
หน้าแรกโรคระบาดศูนย์จีโนมฯ เตือนปี 2567 การ์ดอย่าตก ทั่วโลกเฝ้าจับตาการระบาด JN.1

ศูนย์จีโนมฯ เตือนปี 2567 การ์ดอย่าตก ทั่วโลกเฝ้าจับตาการระบาด JN.1

อ่านข่าวนี้กดที่นี่
ศูนย์จีโนมฯ เผยปี 2567 ทั่วโลกเฝ้าจับตาความรุนแรงของโอมิครอน JN.1 เตือนการ์ดอย่าตก มาตรการพื้นฐานทางสาธารณสุขเดิมยังใช้ได้

วันที่ 18 มกราคม 2567 แฟนเพจ Center for Medical Genomics ของ ศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี โพสต์ข้อความว่า “หลังคลื่นการแพร่ระบาดของโอมิครอน JN.1 ผ่านพ้นไปผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกคาดว่าจะมีคลื่นการระบาดของกลุ่ม JN ที่หลากหลาย (new soup of JN ) อาทิ JN.1.4, JN.1.2, JN.1.6.1, JN.1.11, JN.6, JN.7, JN.8 ฯลฯ ติดตามมา

ดังนั้นการ์ดของมาตรการสาธารณสุขต่อโควิด-19 ในปี 2567 ไม่ควรตก กล่าวคือ หมั่นล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม พิจารณาฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง เตรียมยาต้านไวรัสให้พร้อมสำหรับผู้ติดเชื้อรุนแรง เพราะจากการถอดบทเรียนการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมาพบว่ามาตรการสาธารณสุขดังกล่าวได้ช่วยป้องกันผู้ติดเชื้อเสียชีวิตได้มากกว่า 10 ล้านคน

ปรับปรุง 17/1/2567 เวลา 22.42

หลังคลื่นการแพร่ระบาดของโอมิครอน JN.1 ในช่วงต้นปี 2567 ผ่านพ้นไปผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกคาดว่าจะมีคลื่นการระบาดของกลุ่ม JN* ที่หลากหลาย (new soup of JN ) อาทิ JN.1.4, JN.1.2, JN.1.6.1, JN.1.11, JN.6, JN.7, JN.8 ฯลฯ ติดตามมา

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่ต้องเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะมีความรุนแรงน้อยไม่ต่างจากโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือทวีความรุนแรงมากขึ้น การ์ดของมาตรการพื้นฐานในปี 2567 นี้ต้องไม่ตก กล่าวคือ หมั่นล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม พิจารณาฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง เตรียมยาต้านไวรัสให้พร้อม

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้ประเมินผลกระทบของมาตรการสาธารณสุขพื้นฐานที่ไม่ใช้ยาและวัคซีน (non-pharmaceutical interventions: NPIs) ต่อผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทั่วโลก:

  • อิมพิเรียลคอลเลจลอนดอน: ประมาณการว่ามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมเพียงอย่างเดียวสามารถป้องกันการเสียชีวิตจากโควิด-19 ได้ถึง 5.2 ล้านคนทั่วโลกใน 70 วันแรกของการดำเนินการ
  • องค์การอนามัยโลก: แนะนำว่าการสวมหน้ากากเพียงอย่างเดียวสามารถป้องกันการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในยุโรปได้ถึง 60%
  • นิตยสาร Science: นำผลการศึกษาประเมินว่าการปิดเมืองในสหรัฐอเมริกาสามารถป้องกันการเสียชีวิตได้ 2.7 ล้านคนระหว่างเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม 2020
  • ทั่วโลก: การระบาดใหญ่หากไม่มีวัคซีนอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นหลายสิบล้านคนทั่วโลก ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากระบบการรักษาพยาบาลใน รพ. จะล้มเหลว (เพราะเตียงและอุปกรณ์การแพทย์ไม่พอเพียง) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้ประเมินผลกระทบจากวัคซีน

  • สหรัฐอเมริกา: ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค สหรัฐอเมริกา (US CDC) สหรัฐฯ ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 655 ล้านโดส-80 เปอร์เซ็นต์ของประชากรได้รับวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง – โดยมีผลสะสมในการป้องกันผู้ป่วยรุนแรงที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มเติมได้มากกว่า 18 ล้านคน และลดการเสียชีวิตเพิ่มเติมได้มากกว่า 3 ล้านคน
  • การพัฒนาวัคซีนอย่างรวดเร็ว การอนุมัติฉุกเฉินเพื่อจำหน่ายในวงกว้าง และการเปิดตัวอย่างรวดเร็ว มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการรักษาในโรงพยาบาลและการเสียชีวิต ขณะเดียวกันก็ช่วยบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดใหญ่ โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของสหรัฐอเมริกาช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลของสหรัฐฯ ได้กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และรักษาทรัพยากรของโรงพยาบาล ให้เด็กๆ ได้เข้าเรียนในโรงเรียน และอนุญาตให้เปิดธุรกิจและกิจกรรมอื่นๆ ได้อีกครั้ง อย่างไรก็ดีผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนต้องมีการศึกษาควบคู่ไปด้วย ปัจจุบันมีวัคซีนหลายประเภทที่อาจเลือกใช้ได้ให้สอดคล้องกับแต่ละบุคคล

นี่เป็นเพียงการประมาณการคร่าวๆ ตัวเลขจริงอาจสูงหรือต่ำกว่าก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือสถานการณ์สมมติเหล่านี้หากเกิดขึ้นจริงจะเป็นความทุกข์ทรมานอันใหญ่หลวงของมนุษย์

ดังนั้นแม้ว่าจะไม่สามารถระบุจำนวนที่แน่นอนได้ แต่หลักฐานก็แสดงให้เห็นอย่างท่วมท้นว่ามาตรการพื้นฐานทางสาธารณสุข เช่น หมั่นล้างมือ กินร้อน ช้อนกลาง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม พิจารณาฉีดวัคซีนในกลุ่มเสี่ยง การใช้ยาต้านไวรัสได้ช่วยชีวิตผู้คนได้นับไม่ถ้วนในช่วงการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ใน 4 ปีที่ผ่านมา”

ข้อมูลจาก แฟนเพจ Center for Medical Genomics

ข่าวยอดนิยมในสัปดาห์