เมื่อวันที่ 12 ม.ค.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพอังกฤษ ปฎิบัติการโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายต่าง ๆ ของกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน เพื่อตอบโต้ต่อการที่กลุ่มกบฏฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์ซึ่งเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง จนส่งผลกระทบต่อการเดินเรือในทะเลแดง
รายงานข่าวแจม้งว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อยืนยันว่ามีการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง และมีรายงานเหตุระเบิดรุนแรงในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน รวมถึงเมืองอัล ฮูเดย์ดาห์ ซึ่งเป็นเมืองท่าทางตะวันตกของเยเมน
ทั้งนี้ การโจมตีทางอากาศในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อทำลายฐานที่มั่นหรือจุดที่กลุ่มฮูตีใช้ในการโจมตีเรือในทะเลแดง และความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากที่คณะทำงานของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ ออกคำเตือนถึงการดำเนินการตอบโต้ที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่กลุ่มฮูตีใช้โดรนและขีปนาวุธต่อต้านเรือมุ่งเป้าโจมตีเรือในทะเลแดงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าและการเดินเรือที่สำคัญ
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานด้วยว่า การโจมตีทางอากาศดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนตะวันออกกลาง ซึ่งส่วนหนึ่งมีเป้าหมายเพื่อขอการสนับสนุนสำหรับการดำเนินการในเชิงรุกต่อกลุ่มฮูตี โดยนายบลิงเกนเน้นย้ำว่า หากการโจมตีในทะเลแดงยังคงดำเนินอยู่ต่อไป ก็จะมีผลพวงเกิดขึ้นตามมา และก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี (11 ม.ค.) กลุ่มฮูตีได้ยิงขีปนาวุธในอ่าวเอเดน ซึ่งนับเป็นการโจมตีเรือพาณิชย์ครั้งที่ 27 ของกลุ่ม นับตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2566
อย่างไรก็ตาม การโจมตีดังกล่าวนับเป็นการก่อเหตุครั้งรุนแรงที่สุดในช่วงหลายสัปดาห์ นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอลครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ซึ่งกองทัพอิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการบุกปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน และไม่นานหลังจากนั้น กลุ่มฮูตีก็ได้เริ่มคุกคามเรือพาณิชย์ในทะเลแดง และยืนยันว่าจะไม่ยอมหยุด จนกว่าอิสราเอลจะยุติการโจมตีฉนวนกาซา.