มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ ๒๐ ของพื้นที่
ระดับน้ำมูลที่สถานีวัดน้ำ M๗ ระดับน้ำ ๑๑๒.๙๑ ม.รทก ลดลงจากวานนี้ ๖ ซม. สูงกว่าตลิ่งฝั่งอำเภอวารินชำราบ ๐.๙๑ เมตร
ระดับน้ำที่แก่งสะพือ ๑๐๙.๙๗ ม.รทก. ต่ำกว่าระดับน้ำ M.๗ : ๒.๙๔ เมตร
ระดับน้ำตอนท้ายเขื่อนปากมูล ๑๐๐.๔o ม.รทก. ต่ำกว่าระดับน้ำแก่งสะพือ ๙.๕๗ เมตร และระดับน้ำแม่น้ำโขง ๙๘.๐๓ ม.รทก ลดลง ๒๗ ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง ๕.๕๐ เมตร และต่ำกว่าระดับน้ำเขื่อนปากมูล ๒.๓๗ เมตร
จังหวัดอุบลราชธานี ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม ๑๓ อำเภอได้แก่ อำเภอเมือง วารินชำราบ ม่วงสามสิบ ตระการพืชผล เหล่าเสือโก้ ดอนมดแดง เขื่องใน ตาลสุม เดชอุดม อำเภอสว่างวีรวงศ์ ทุ่งศรีอุดม พิบูลมังสาหาร และเขมราฐ จำนวน ๗๖ ตำบล ๔๘๖ หมู่บ้าน ๑๕,๓๒๒ ครัวเรือน ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ๒๕ จุด แยกเป็น
– ด้านการดำรงชีพ ๓ อำเภอ คือ อำเภอเมือง วารินชำราบ และสว่างรีรวงศ์ ๑๐ ตำบล ๔๙ ชุมชน ๒,๐๖๙ ครัวเรือนราษฎรอพยพ ๗ ตำบล ๒๙ ชุมชน ๕๔๕ ครัวเรือน แยกเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ๒๕ จุด ๔๗๖ ครัวเรือน ๑,๖๕๓ คน และพักบ้านญาติ ๖๙ ครัวเรือน ๑๖๗ คน
– ด้านการเกษตร ด้านพืชได้รับผลกระทบ ๑๓ อำเภอได้แก่ อำเภอม่วงสามสิบ วารินชำราบ
เมือง ตระการพืชผล เหล่าสือโก้ก ดอนมดแดง เขื่องใน ตาลสุม เดชอุดม สว่างวีรวงศ์ ทุ่งศรีอุดม พิบูลมังสาหาร และเขมราฐ พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะเสียหาย ๙๒,๘๐๔.๗๕ ไร่
– ด้านประมง ๓ อำเภอได้แก่อำเภอดอนมดแดง เขื่องใน และม่วงสามสิบ พื้นที่อาจจะเสียหาย ๔๘.๗๐ ไร่
– ด้านปศุสัตว์ ๔ อำเภอได้แก่ อำเภอเมือง วารินชำราบ ตระการพืชผล และม่วงสามสิบ สัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ๑๒,๐๔๙ ตัว อพยพสัตว์ ๗,๐๕๘ ตัว แปลงหญ้าเสียหาย ๗๙ ไร่
จังหวัดอุบลราชธานีได้ระดมความช่วยเหลือจากส่วนราชการ ทหาร ตำรวจพลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคเอกชนมูลนิธิการกุศล พร้อมด้วยจิตอาสา ออกให้การช่วยเหลือประชาชน นำกำลังพลอพยพเคลื่อนย้าย จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว ๒๕ จุด ตั้งเต็นท์มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ๓๕ หลัง เต็นท์ ๒๘๐ หลัง ถังน้ำ ๘๕ ถังตู้สุขา ๗๐ ตู้ รถเคลื่อนย้าย เครื่องสูบน้ำ ๒๓ เครื่องพร้อมมอบสิ่งของ จัดตั้งโรงครัวกลางอาสาของเครือข่ายอาสาชุมชนป้องกันภัยพิบัติอุบลราชธานี ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังในพื้นที่ชุมชนลุ่มต่ำและเพิ่มการระบายน้ำแม่น้ำมูลจากพื้นที่จำนวน ๔ จุด ๑๗ เครื่อง
กองบิน ๒๑ จัดหาอากาศยานแบบปีกหมุน สนับสนุน ชป.๗ ทำการบินสำรวจลำน้ำสายต่างๆที่ส่งผลกระทบต่อลำน้ำมูลในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร และจังหวัดร้อยเอ็ด