กองทัพยูเครนกดดันรัสเซียอย่างหนัก ส่งฝูงโดรนติดอาวุธโจมตีกรุงมอสโกครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้ง โดยกองทัพรัสเซียสามารถยิงสกัดโดรนตกถึง 45 ลำ เมื่อคืนวันอังคารที่ 20 ส.ค. 2567 ขณะกองทัพยูเครนส่งกำลังทหารบุกข้ามพรมแดนเข้ามาในแคว้นคูสค์ ทางภาคตะวันตกของรัสเซีย
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเมื่อวันพุธที่ 21 ส.ค. 2567ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้ยิงสกัดโดรนติดอาวุธที่ถูกส่งมาโจมตีกรุงมอสโกและพื้นที่โดยรอบ ตกไปถึง 11 ลำ รวมทั้งสามารถสกัดโดรนตกเหนือเมืองโปโดลสค์ ซึ่งอยู่ห่างจากทำเนียบประธาธิบดี หรือวังเครมลิน ในกรุงมอสโก ไปทางใต้ประมาณ 38 กิโลเมตร
กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แจ้งว่า มีโดรน 10 ลำ ถูกยิงสกัดตกที่เขตมอสโก ขณะที่มีโดรน 23 ลำ ถูกยิงตกใกล้พรมแดนแคว้นเบรียนสค์, โดรน 6 ลำ ถูกยิงตกใกล้เขตแดนติดแคว้นเบลโกรอด และโดรน 3 ลำ ถูกยิงตกที่แคว้นคาลูกา ซึ่งมีเขตแดนติดกับกรุงมอสโก ทางตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนั้น ยังมีโดรน 2 ลำถูกส่งมาโจมตีที่แคว้นคูสค์ ซึ่งทหารรัสเซียและยูเครนกำลังสู้รบกันอย่างหนัก
“เซอร์เก โซเบียนิน” นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก แจ้งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า การส่งโดรนมาโจมตีกรุงมอสโกในครั้งนี้ นับเป็นความพยายามโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้น โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ หรือความเสียหาย หลังจากรัสเซียทำสงครามในยูเครนตั้งแต่ ก.พ. 2565
ทั้งนี้ การส่งโดรนติดอาวุธมาโจมตีกรุงมอสโก ถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก ในขณะที่ความพยายามครั้งล่าสุดของกองทัพยูเครนก่อนหน้านี้ ในการส่งโดรนมาโจมตีกรุงมอสโก เกิดขึ้นเมื่อ พ.ค. 2566 เมื่อมีโดรนติดอาวุธอย่างน้อย 8 ลำ ถูกยิงสกัดตก.