วันพฤหัสบดี, กุมภาพันธ์ 13, 2025
หน้าแรกภูมิภาคท้องถิ่นอุบลฯจัดพิธีวางพวงมาลาและถวายราชสดุดี วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ประจำปี 2566 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

อุบลฯจัดพิธีวางพวงมาลาและถวายราชสดุดี วันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ประจำปี 2566 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

-

อ่านข่าวนี้กดที่นี่

วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30 น. นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีมอบหมายให้นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นประธานพิธีถวายราชสดุดี และถวายบังคมพระราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ประจำปี 2566 หรือวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย โดยมีนายวรวิทย์ โสภาพันธ์ผู้อำนวยการลูกเสือเขตพื้นที่การศึกษาอุบลราชธานี เขต 1 รวมทั้งผู้บริหาร  คณะกรรมการบริหารลูกเสือ  ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ข้าราชการ และลูกเสือ เนตรนารี จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี ณ ณ ค่ายลูกเสือจังหวัดอุบลราชธานี(บ้านหนองไหล)ตำบลหนองขอน อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานีทั้งนี้คณะกรรมการบริหารสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 25 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันสำคัญของ “คณะลูกเสือแห่งชาติ” โดยลูกเสือ เนตรนารี จะร่วมกันน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความกตัญญูกตเวทิตาธรรม ด้วยการประกอบพิธีถวายพวงมาลา ถวายราชสดุดี และแต่งเครื่องแบบลูกเสือ เนตรนารี พร้อมออกบำเพ็ญประโยชน์ ตามสถานที่ต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร เพื่อปลูกฝังเยาวชนให้มีความสามัคคี มานะอดทน เสียสละเพื่อส่วนรวม และเป็นผู้ช่วยรบได้ ในยามคับขันวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า เป็นวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีพระมหากรุณาธิคุณต่อกิจการด้านการศึกษา และเป็นผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย บุคลากรทางการศึกษา และบรรดาลูกเสือ เนตรนารี ตลอดจนบุคลากรทางการลูกเสือทุกหมู่เหล่า ล้วนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงพร้อมใจกันวางพวงมาลาเพื่อถวายราชสดุดี และร่วมปฏิบัติกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์โดยพร้อมเพรียงกันทั่วราชอาณาจักร อันเป็นประเพณีของลูกเสือที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ในวันสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ด้วยพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นว่าประเทศชาติจะมีความมั่นคงได้นั้น จำต้องอาศัยบุคลากรที่มีความรู้ กำลังกองทัพที่มีคุณภาพ และความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงทรงตั้ง “กองเสือป่า” และนำเยาวชนมาฝึกอบรมตามหลักวิชาการทหาร เพื่อเป็นกำลังสำรองในการป้องกันประเทศ และทรงตั้งกองลูกเสือขึ้น เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ 2454 โดยมีพระราชประสงค์ให้นำกิจการลูกเสือไปเผยแพร่ตามโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อฝึกอบรมเด็กและเยาวชนของชาติให้เป็นพลเมืองดี เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ ดั่งพระราชดำรัสที่ว่า “ข้าไม่ต้องการตำราเรียนที่เดินได้ ที่ข้าอยากได้นั้น คือ เยาวชนที่เป็นสุภาพบุรุษ ซื่อสัตย์สุจริต มีอุปนิสัย ใจคอดี” ดังนั้น บรรดาลูกเสือในยุคต่อมา จึงมุ่งมั่นดำเนินงานตามแนวพระราโชบายจวบจนปัจจุบัน จากพระราชปณิธานของผู้พระราชทานกำเนิดลูกเสือไทย ที่ได้ทรงมุ่งหมายให้ทุกท่านประพฤติชอบด้วยกาย วาจา และใจ ตามกฎของลูกเสือทั้ง 10 ข้อ และคติพจน์ของลูกเสือความว่า “เสียชีพ อย่าเสียสัตย์” ซึ่งเชื่อมั่นว่า หากทุกท่านประพฤติปฏิบัติได้ดังนี้แล้ว จะเกิดเป็นผลดี ต่อตนเอง สังคม ตลอดจนประเทศชาติต่อไป.

ข่าวยอดนิยมในสัปดาห์