ผู้ว่าการรัฐฮาวาย เผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟป่าครั้งรุนแรงที่เผาทำลายเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง ทะลุเกิน 100 ศพแล้ว
นายจอช กรีน ผู้ว่าการรัฐฮาวาย ประกาศยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้ว เพิ่มขึ้นจาก 99 เป็น 101 ศพ ด้านกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ นักพยาธิวิทยา และช่างเทคนิค พร้อมด้วยโต๊ะตรวจ หน่วยเอกซเรย์ และอุปกรณ์อื่นๆ เพื่อระบุตัวของเหยื่อ
โดยหนึ่งสัปดาห์หลังจากไฟป่าสร้างความเสียหายแก่เมืองลาไฮนา ผู้รอดชีวิตจำนวนมากเริ่มย้ายเข้าไปอยู่ในห้องพักโรงแรมหลายร้อยห้อง ที่จัดไว้สำหรับคนท้องถิ่นที่ไร้ที่อยู่อาศัย ขณะที่การบริจาคอาหาร น้ำแข็ง น้ำ และสิ่งจำเป็นอื่นๆ ยังคงหลั่งไหลเข้ามา
ทางการเขตเมาวี เคาน์ตี เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ใช้สุนัขในการค้นหาผู้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 32% ของพื้นที่ ผู้ว่าฯ ขอความร่วมมือจากประชาชนให้อดทนรอ หลังจากประชาชนยื่นคำร้องขอเข้าไปยังพื้นที่ไฟไหม้อย่างล้นหลาม
ตามการระบุของผู้บัญชาการตำรวจเมาอี จนถึงขณะนี้ สามารถระบุศพได้เพียง 3 ศพ และเจ้าหน้าที่คาดว่าจะเริ่มเปิดเผยชื่อในเร็วๆ นี้ และร้องขอให้ครอบครัวที่มีญาติสูญหายส่งตัวอย่างดีเอ็นเอ จนถึงขณะนี้มีการส่งตัวอย่างไปแล้ว 41 ตัวอย่าง และได้รับโปรไฟล์ดีเอ็นเอจากผู้เสียชีวิตแล้ว 13 รายการ
นายกรีนยังกล่าวเตือนว่า อาจพบศพเพิ่มขึ้นอีกมาก ขณะที่ไฟป่า ซึ่งบางส่วนยังคงไม่สามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ นับเป็นไฟป่าที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในรอบกว่าศตวรรษของสหรัฐฯ ส่วนสาเหตุยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวน นายกรีนกล่าวว่า ปัจจัยที่ซับซ้อนอีกประการหนึ่ง คือการคาดการณ์พายุฝนและลมแรงในช่วงสุดสัปดาห์ เจ้าหน้าที่กำลังพิจารณาว่าจะปิดระบบไฟฟ้าชั่วคราวหรือไม่ในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะในขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานทั้งหมดอยู่ในสภาพอ่อนแอ
หน่วยงานด้านไฟฟ้าในท้องถิ่นเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการไม่ตัดกระแสไฟฟ้า เนื่องจากลมแรงพัดถล่มพื้นที่ที่แห้งแล้ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดไฟไหม้ ยังไม่ชัดเจนว่าอุปกรณ์ในการส่งกระแสไฟฟ้าเกี่ยวข้องกับการเกิดไฟไหม้หรือไม่ บริษัท ฮาวาเอียน อิเล็กทริก กล่าวว่า มีหลายปัจจัยที่นำไปสู่การตัดสินใจตัดกระแสไฟ รวมถึงผลกระทบต่อผู้คนที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ทางการแพทย์เฉพาะทาง และความกังวลว่าการปิดระบบไฟในบริเวณที่เกิดไฟไหม้จะทำให้ปั๊มน้ำดับ
ผู้ว่าการรัฐฮาวาย กล่าวว่า เปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วถึงราว 1.6 กิโลเมตร ทุกๆ นาทีในพื้นที่หนึ่ง โดยมีหญ้าแห้งเป็นเชื้อเพลิง และจากกระแสลมแรงจากพายุเฮอริเคนที่พัดผ่าน โดยเปลวเพลิงที่พัดเข้าสู่เมืองลาไฮนาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ทำลายอาคารเกือบทุกหลังในเมืองที่มีประชากร 13,000 คน ทางการสามารถควบคุมไฟได้แล้ว 85% ส่วนไฟป่าอีกจุดที่เรียกว่า “อัปคันทรี ไฟร์” สามารถควบคุมได้แล้ว 60%
ไฟไหม้เมืองลาไฮนา ทำให้ทรัพย์สินที่เอาประกันภัยเสียหายประมาณ 3,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 112,000 ล้านบาท) ตามการคำนวณของ “คาเรน คลาร์ก แอนด์ คอมปานี” (Karen Clark & Company) ซึ่งเป็นบริษัทสร้างแบบจำลองภัยพิบัติและความเสี่ยงชื่อดัง นั่นไม่นับรวมความเสียหายต่อทรัพย์สินที่ไม่มีประกันภัย บริษัทกล่าวว่า อาคารมากกว่า 2,200 หลัง ได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายจากเปลวเพลิง โดยมีประมาณ 3,000 หลัง ได้รับความเสียหายจากไฟหรือควัน หรือทั้งสองอย่าง
แม้ว่าเปลวไฟจะสงบลงแล้ว ทางการเตือนว่า อาจยังคงมีสารพิษตกค้างอยู่ รวมถึงในน้ำดื่ม หลังจากเปลวไฟก่อให้เกิดควันพิษ ทำให้หลายคนยังคงกลับบ้านไม่ได้
ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าววานนี้ว่า เขาจะเดินทางไปยังรัฐฮาวายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อสำรวจความเสียหายและเป็นกำลังใจให้กับผู้รอดชีวิต เขากล่าวด้วยว่า ที่เขายังไม่เดินทางไปตอนนี้ เนื่องจากไม่อยากทำให้เกิดอุปสรรคในความพยายามให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้ ทั้งนี้ เนื่องจากการเดินทางไปที่ใดๆ ของประธานาธิบดี เป็นปฏิบัติการที่ซับซ้อนในด้านความปลอดภัยและโลจิสติกส์ ต้องใช้ความร่วมมือของหน่วยงานในท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก และต้องดึงกำลังคนที่ดูแลการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ.