ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในเกาหลีใต้เพิ่มเป็น 39 ศพแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตภายในอุโมงค์ลอดใต้สะพาน ขณะที่ผู้นำประเทศกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ล้มเหลวในการรับมือ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ประธานาธิบดี ยุน ซอก ยอล ของเกาหลีใต้ กล่าวโทษเจ้าหน้าที่ของทางการว่า ล้มเหลวในการทำตามข้อปฏิบัติในการรับมือกับภัยพิบัติ เป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก โดยล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 39 ศพแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นการเสียชีวิตภายในอุโมงค์ลอดใต้สะพาน ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยรายงานว่า มีผู้สูญหาย 9 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีก 34 รายทั่วประเทศ
นายยุนเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ก่อนที่จะเรียกประชุมด่วนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการรับมือภัยพิบัติ โดยระบุว่า ที่สถานการณ์เลวร้ายลง เป็นเพราะการบริหารจัดการที่ไม่ดี ทั้งที่มีการเน้นย้ำแนวทางปฏิบัติในการเข้าไปยังพื้นที่เสี่ยงอันตราย และมีการวางแผนเตรียมพร้อมการอพยพมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่มีการปฏิบัติตามแผน ทำให้ยากต่อการดูแลความปลอดภัยให้แก่ประชาชน
โดยเกาหลีใต้เผชิญกับฝนตกหนักต่อเนื่องมาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในภูมิภาคทางตอนใต้และตอนกลางของประเทศ ตามมาด้วยดินถล่มและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอุโมงค์ทางลอดใต้สะพานในเมืองชองจูที่มีน้ำท่วมอุโมงค์ เนื่องจากเขื่อนกั้นแม่น้ำพังถล่มเมื่อวันเสาร์ตามเวลาในท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีรถติดอยู่ภายใน 16 คัน ทั้งรถโดยสารและรถยนต์ส่วนตัวที่จมอยู่ในนั้น โดยมีรายงานพบร่างผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 12 ศพ และยังมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 9 ราย
เหตุสลดที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการในการรับมือและป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วมของทางการเกาหลีใต้ โดยเฉพาะผู้ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ ที่กล่าวโทษรัฐบาลที่ไม่ยอมสั่งปิดถนนทางลอดอุโมงค์ ทั้งๆ ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเกิดน้ำท่วม และก่อนหน้านี้ก็มีรายงานการเสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมมาแล้วจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศมีความผันผวนรุนแรงมากขึ้น
ล่าสุด สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ทางตำรวจเกาหลีใต้ระบุว่า จะมีการสืบสวนเหตุน้ำท่วมทางลอดอุโมงค์ดังกล่าวแล้ว.