กดเพื่อฟังข่าวนี้“มิลลิ” แร็ปเปอร์สาว เสียค่าปรับ 2,000 บาท ฐานความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา หลัง Call out ทวีตวิจารณ์รัฐบาล
นายศุชัยวุธ ชาวสวนกล้วย ทนายความ ของนางสาวดนุภา คณาธีรกุล หรือ มิลลิ นักร้อง แร็ปเปอร์ชื่อดัง เปิดเผยหลังการรับทราบข้อกล่าวหา ที่มีนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการตรวจสอบและดำเนินคดีแก่ผู้เผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี หรือ คตส. เป็นผู้กล่าวหา ว่า
การเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ สืบเนื่องจาก น.ส.ดนุภา ได้แสดงความคิดเห็นในทวิตเตอร์ ซึ่งบางข้อความผู้กล่าวหามองเป็นข้อความไม่สุภาพ หยาบคาย ซึ่งถือว่าเป็นการแจ้งความร้องทุกข์ตามสิทธิ์ ที่สามารถทำได้ และ น.ส.ดนุภา ได้ยอมรับผิด ในข้อหาดูหมิ่นด้วยการโฆษณาและเสียค่าปรับ เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท
ทนายศุชัยวุธ กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของมิลลิ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เป็นสิทธิของประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นด้วยความห่วงใย ซึ่งถ้อยคำหรือข้อความที่สื่อไปนั้น ในวัยหนึ่งยุคหนึ่งของคนหนึ่งอาจมองว่าไม่สุภาพ แต่ในยุคของมิลลิ ซึ่งอายุ 19 ปี มองว่าเป็นถ้อยคำธรรมดา อย่างไรก็ตาม มิลลิ ก็ได้ยอมรับว่าถ้อยคำที่ได้สื่อไปและได้ขอโทษเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนจากนี้จะมีการแสดงอย่างอื่นหรือไม่ ทนายศุชัยวุธ ระบุว่า การแสดงออกใดๆ หรือการกระทำใดๆ ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ หากเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม และไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย สามารถกระทำได้ ซึ่งมิลลิยังคงจะแสดงความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อไป และยืนยันว่าประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลได้โดยใช้ถ้อยคำที่สุภาพ
สำหรับการวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้ เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลหรือเจาะจงไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงแม้ว่าถ้อยคำจะมีคำว่ารัฐบาล แต่ให้ดูข้อความที่ตามมาด้วยนั่นหมายถึงว่า ให้ดูที่เจตนา ถึงแม้ว่าจะมีคำว่า “รัฐบาล” แต่ข้อความที่ตามมาคือ “อยากให้เห็นการกระทำ” ไม่ได้เจาะจงโดยตรง ทั้งนี้ เป็นเนื้อหาในคดีไม่อยากเปิดเผยรายละเอียดมาก
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวไม่เกี่ยวกับกรณีที่นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร และอดีตผู้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นหนังสือร้องสอบการออกมา Call out ของดารา นักร้อง และผู้มีชื่อเสียงเกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดต่อ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์, พ.ร.ก.สถานการณ์การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ รวมถึงการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล
