“เตือนใจช่างแอร์ทั่วประเทศ : ถังน้ำยาไม่ใช่ที่เก็บแรงดันชีวิต”
ขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของเพื่อนช่างแอร์ในเหตุถังน้ำยาระเบิดในวันนี้
จากเหตุ ถังน้ำยาระเบิด ขณะกำลัง “เก็บน้ำยาแอร์กลับเข้าถัง” เพื่อไม่ปล่อยสู่อากาศ
“เจตนาดีครับ แต่ เครื่องมือผิดประเภท…อาจพรากชีวิตได้ในเสี้ยววินาที”
⚠️ เรื่องที่ช่างแอร์ทุกคน “ต้องเข้าใจให้ลึก” ตามหลักวิศวกรรม
ถังสีเขียวแบบที่ใช้บรรจุน้ำยา R22 หรือ R410A จากโรงงานนั้น
เรียกว่า “ถังใช้ครั้งเดียว” (Disposable Cylinder) ภายในถังจะมีแผ่นนิรภัยเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “Burst Disc”
ทำหน้าที่เพียงระบายแรงดันเมื่อเกิดความร้อนสูงระหว่างการขนส่งหรือเก็บสินค้า
❌ แต่ไม่ได้ออกแบบให้รับแรงดันซ้ำ หรืออัดน้ำยาเข้าใหม่เด็ดขาด
แรงดันของน้ำยาแอร์ โดยเฉพาะ R410A / R32 สามารถพุ่งเกิน 600 psi ได้ในเวลาไม่กี่นาที
เมื่ออัดซ้ำในถังใช้ครั้งเดียวที่ไม่ได้มีระบบ Safety Valve ผลที่เกิดขึ้นคือ “ถังปริแตก” และเมื่อมีแรงดันสูงระดับนั้น เศษเหล็กสามารถปลิวแรงกว่ากระสุนปืนหลายเท่า
ความแตกต่างของถังเก็บน้ำยา (Recovery Tank) ที่ถูกต้อง ต้องมี มาตรฐาน DOT-4BA หรือ 4BW มี วาล์ว 2 ช่อง (ของเหลว / ไอ)
มี วาล์วนิรภัย (Spring Safety Relief Valve)
และต้องผ่านการตรวจสภาพถังทุก 5 ปี
นี่แหละคือถังที่ “ออกแบบเพื่อการเก็บน้ำยา” อย่างแท้จริง อย่าเอาถังแบบใช้ครั้งเดียวมาเสี่ยงชีวิตครับ
ในเชิงวิศวกรรม
แรงดันในระบบ R410A/R32 ที่อุณหภูมิ 40°C มีค่าประมาณ 418 psi แต่ถังใช้ครั้งเดียวถูกออกแบบให้ทนไม่เกิน 480 psi เท่านั้น
ถ้าความร้อนสูงขึ้นอีกเพียง 10°C แรงดันจะทะลุ 520 psi และที่นั่นคือ “จุดระเบิดของชีวิต”
เราขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง
ต่อครอบครัวและเพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้ เพื่อนช่างของเราจากไปในขณะทำหน้าที่ที่ดีที่สุด เพื่อรักษาความเย็นให้ผู้อื่น แต่ต้องสูญเสียเพราะอุปกรณ์ที่ไม่ถูกออกแบบให้ปลอดภัย
🙏 ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนให้ช่างทุกคน
อย่าอัดน้ำยากลับเข้าถังแบบใช้แล้ว ใช้ถัง Recovery ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น อย่าเห็นแก่ความประหยัด จนต้องเสี่ยงกับชีวิต
“เพื่อนช่างไม่ได้ตายเพราะความประมาท แต่เพราะระบบความรู้ในวงการยังไม่ถูกสื่อออกไปมากพอ 
