มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีร่วมกับภาคีเครือข่ายร่วมเปิด “พิพิธภัณฑ์รถไฟวาริน (Warin Railway Museum)” แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของอำเภอวารินชำราบ
วันที่ 24 ตุลาคม 2568 เวลา14.00 น. ที่ ร้านส่งสาร สถานีรถไฟ (Songsarn X Railway Station) สาขาวารินฯ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชานี นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ เป็นประธานพิธีเปิด “พิพิธภัณฑ์รถไฟวาริน (Warin Railway Museum)” แหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของอำเภอวารินชำราบ โดยมีผศ.ดร.ชุตินันท์ ประสิทธิ์ภูริปรีชา อธิการบดี พร้อมผู้บริหารมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน คณะนักวิจัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมในพิธีฯ

ด้วยมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) เพื่อดำเนินโครงการ “ฟื้นชีวิตคืนชีวา สร้างคุณค่าเมืองวาริน : การออกแบบนิเวศการเรียนรู้ของย่านเมืองเก่าวารินชำราบ ด้วยซอฟต์พาวเวอร์และทุนทางวัฒนธรรม” ซึ่งโครงการนี้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาอำเภอวารินชำราบให้เป็น “เมืองแห่งการเรียนรู้” (Learning City) โดยการนำทุนทางวัฒนธรรมและ Soft Power ที่มีอยู่มาใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อพัฒนาและฟื้นฟูย่านเมืองเก่าให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
คณะนักวิจัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ได้จัดพิธีเปิด “พิพิธภัณฑ์รถไฟวาริน (Warin Railway Museum)” ขึ้นในวันนี้ (24 ตุลาคม 2568) ณ ร้านส่งสาร สถานีรถไฟ (Songsarn X Railway Station) สาขาวารินฯ เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการสร้างทางรถไฟ กทม.-อุบลราชธานี และเป็นแหล่งรวมภาพเก่าของอำเภอวารินชำราบให้แก่เยาวชนและคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ ที่จะดึงดูดผู้คนจากทั่วสารทิศให้ได้สัมผัสกับเสน่ห์อันลึกซึ้งของเมืองวารินฯ

“พิพิธภัณฑ์รถไฟวารินชำราบ” ตั้งขึ้นเพื่อเล่าเรื่องราวของการสร้างทางรถไฟกทม.-อุบลราชธานี และเป็นแหล่งรวบรวมภาพเก่าของอำเภอวารินชำราบที่ ยังไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของโครงการ “ฟื้นชีวิต คืนชีวา สร้างคุณค่าเมืองวาริน : การออกแบบนิเวศการเรียนรู้ของย่านเมืองเก่าวารินชำราบ ด้วยซอฟต์พาวเวอร์และทุนทางวัฒนธรรม” ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างเทศบาลเมืองวารินชำราบและมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ภายใต้การสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.)

ซึ่งเป้าหมายไม่ได้มีเพียงแค่การสร้างพิพิธภัณฑ์ แต่เป็นการสร้าง “เมืองแห่งการเรียนรู้” ให้กับทุกคนในชุมชน ด้วยพลังของ Soft Power และทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่มากมายในท้องถิ่น การเปิดพิพิธภัณฑ์ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยเรื่องราวที่เคยถูกซ่อนไว้ของวารินชำราบ แต่ยังเป็นการเปิดประตูให้เยาวชนและคนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของบ้านเกิด ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ “ร้านส่งสาร” ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ทำให้พิพิธภัณฑ์มีชีวิตชีวาและมีความหมายมากขึ้น.










