
“ตรีนุช” พร้อม ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนสถานทูตอิสราเอล รับร่าง “สนธยา อัครศรี” แรงงานไทยที่เสียชีวิตในอิสราเอล หลังเสียชีวิตนานกว่า 2 ปี บรรยากาศการไว้อาลัยเป็นไปด้วยความเศร้าโศก ก่อนส่งร่างกลับคืนอ้อมอกของครอบครัว รมว.แรงงาน กำชับ สำนักงานแรงงานไทยในต่างประเทศทุกแห่ง ทำงานเชิงรุก ดูแลแรงงานไทยให้ปลอดภัยในทุกมิติ
เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม เวลา 16.45 น. ที่อาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอล ประจำประเทศไทย เดินทางไปรับร่างนายสนธยา อัครศรี แรงงานไทยในอิสราเอลที่เสียชีวิตจากเหตุสงครามอิสราเอล-ฮามาส หลังถูกจับเป็นตัวประกันตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2566 เดินทางถึงประเทศไทย โดยสายการบิน El Al เที่ยวบินที่ LY083 ซึ่งจะออกจากท่าอากาศยานนานาชาติ Ben Gurion กรุงเทลอาวีฟ ในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 00.55 น. และถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ในวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลา 16.35 น. และดำเนินการส่งต่อไปยังจังหวัดหนองบัวลำภูซึ่งเป็นภูมิลำเนาของนายสนธยาฯ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตามความประสงค์ของครอบครัวต่อไป
โดยหลังเดินทางถึงบริเวณสำนักงานเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นางสาวตรีนุช พร้อมด้วยทีมผู้บริหาร ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และ ดร.อโลนา ฟิชเชอร์-คัมม์ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอล ประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่คลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากนั้น รมว.แรงงาน พร้อมคณะ ได้วางพวงหรีดไว้อาลัยแด่ผู้วายชนม์ และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที ซึ่งบรรยากาศการรับร่างแรงงานไทยในวันนี้เป็นไปด้วยความเศร้าโศก ก่อนที่จะมีการนำร่างของนายสนธยา ขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับสู่อ้อมอกของครอบครัวในจังหวัดหนองบัวลำภู ต่อไป
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ตนรู้สึกเศร้ากับการสูญเสียพี่น้องแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศแต่ไม่สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัยในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ ตนขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว “อัครศรี”ที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป ขอให้กำลังใจกับทั้งคุณพ่อ และ คุณแม่ และ ลูกสาวของคุณสนธยา ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอเป็นตัวแทนรัฐบาลไทย พาคุณสนธยากลับบ้าน หลังจากที่ไม่ได้อยู่กับครอบครัวนานถึง 7 ปี
รมว.แรงงาน กล่าวว่า จะดูแลเรื่องการเยียวยาและสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ครอบครัวของคุณสนธยาพึงได้รับอย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ได้มีการดำเนินการไปแล้วในหลายๆส่วน เช่น เงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล หลังจากที่ได้รับร่างของคุณสนธยากลับคืนมายังประเทศไทยแล้ว จำนวน 5 ส่วน ดังต่อไปนี้
1.เงินช่วยเหลือค่าชดเชยการไว้ทุกข์ประมาณ 80,000 บาท
2.ค่าใช้จ่ายในการจัดการศพ จ่ายตามจริงไม่เกิน 40,000 บาท
3.เงินชดเชยรายเดือน ประมาณ 80,000 – 120,000 บาท
4.เงินช่วยเหลือประจำปี 40,000 บาท
- เงินช่วยเหลืออื่นๆ เช่น ค่าเล่าเรียนบุตร เงินช่วยเหลือทางจิตวิทยา อีกจำนวนหนึ่ง
นางสาวตรีนุช กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีเงินชดเชยกรณีถูกเลิกจ้าง ที่เรียกว่า ปิซูอิม ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามขอรับเอกสารที่เกี่ยวข้องจากทายาท ในส่วนของกระทรวงแรงงาน ได้มีการจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนของกรมการจัดหางาน กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศให้กับครอบครัวไปเรียบร้อยแล้ว จำนวน 40,000 บาท และในส่วนของสำนักงานประกันสังคม ที่เป็นเงินสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพให้กับทายาท อีกจำนวน 10,042 บาท รวมถึงเงินช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินสำหรับครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลในส่วนของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ อีกจำนวน 3,000 บาท”ดิฉันขอยืนยันว่า จะให้การดูแลแรงงานไทยทุกคนที่ไปทำงานในต่างประเทศให้ได้รับการดูแล การคุ้มครองสิทธิ รวมไปถึง ความปลอดภัยในการที่พวกท่านจะต้องออกไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง เพื่อนำรายได้กลับเข้าประเทศ อย่างเต็มที่” รมว.แรงงาน กล่าว
และ ในส่วนของการส่งแรงงานไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอิสราเอล กระทรวงแรงงาน ได้ประกาศยกเลิกการชะลอการส่งแรงงานไทยไปอิสราเอลแล้ว และทางกรมการจัดหางาน ตั้งเป้าที่จะส่งแรงงานไทยไปทำงานที่อิสราเอล โดยขณะนี้ เรามีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอล ประมาณ 40,461 คน
น.ส.ตรีนุช ย้ำว่า การดูแลคุ้มครองแรงงานไทยในต่างประเทศ ได้ให้สำนักงานแรงงานในต่างประเทศ ทุกแห่ง ให้ความสำคัญกับการทำงานเชิงรุกในการเข้าไปดูแลแรงงานไทยให้มีความปลอดภัย ในทุกมิติ อย่างเคร่งครัด.
วิวรรธน์ สมุทรปราการ






