เชียงราย – คณะกรรมาธิการสิ่งแวดล้อม ร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ตรวจพบการปนเปื้อนของ “สารหนู” และ “ตะกั่ว” ในน้ำและตะกอนในแม่น้ำกกหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณอำเภอแม่อาย และเขตลุ่มน้ำเชียงราย ทำให้เกิดความกังวลต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
ผลการตรวจสอบพบว่า ปริมาณสารหนูในตะกอนดินบางจุดสูงเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด โดยเฉพาะสารหนูที่มีระดับสูงถึง 33 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นระดับที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์น้ำหน้าดิน และอาจสะสมในห่วงโซ่อาหารได้ในระยะยาว
สาเหตุของมลพิษคาดว่ามาจากกิจกรรมเหมืองแร่ทองคำและแรร์เอิร์ธในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ซึ่งดำเนินการโดยกลุ่มทุนจากประเทศจีน โดยมีการใช้สารเคมีในการละลายแร่ใต้ดิน ก่อนที่น้ำปนเปื้อนจะไหลลงสู่แม่น้ำกกและเข้าสู่พื้นที่ฝั่งไทย
ด้านคณะกรรมาธิการได้เสนอให้รัฐบาลไทยเร่งรัดการเจรจาระดับทวิภาคีกับรัฐบาลจีนและเมียนมา พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันและควบคุมมลพิษ
มาตรการเบื้องต้นที่กำลังดำเนินการ ได้แก่ การติดตั้งสถานีตรวจคุณภาพน้ำ 4 จุดในพื้นที่เสี่ยง การก่อสร้างฝายดักตะกอนและโลหะหนัก รวมถึงการรณรงค์ให้ชาวบ้านหลีกเลี่ยงการใช้น้ำจากแม่น้ำเพื่อการบริโภคโดยตรงในช่วงนี้
ทั้งนี้ แม้ผลการตรวจสอบสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ยังไม่พบการสะสมของสารหนูในร่างกาย แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจำเป็นต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และวางมาตรการป้องกันในระยะยาว เนื่องจากมลพิษในแหล่งน้ำอาจสะสมจนกระทบต่อสุขภาพในอนาคต