เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ศอ.ปชด.) ได้เดินทางไปยังกองบัญชาการ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย เพื่อตรวจสอบของกลางจากปฏิบัติการสกัดกั้นขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นความร่วมมือของกองกำลังผาเมือง หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายปฏิบัติการ SEAL STOP SAFE โดยกองกำลังผาเมือง ร่วมกับ นรข. เขตเชียงราย ได้เปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด จนนำไปสู่การตรวจยึดและจับกุมผู้ต้องหา ได้เป็นจำนวนมาก โดยเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 13 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ นรข. เขตเชียงราย ได้ออกลาดตระเวนเฝ้าระวังแนวชายแดน บริเวณบ้านปงของ ตำบลแม่เงิน อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย 7-8 คน ขับเรือกาบใหญ่มาจอดริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยในเรือบรรทุก กระสอบจำนวน 20 ใบ ภายในพบยาบ้าประมาณ 6 ล้านเม็ด เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ใช้อาวุธยิงต่อสู้เพื่อเปิดทางหลบหนี ส่งผลให้เกิดการปะทะกัน และสามารถควบคุมตัว ชายชาวลาว 1 คน ได้ในที่เกิดเหตุ หลังจากพยายามหลบหนีแต่ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนที่ขา
ต่อเนื่องจากปฏิบัติการดังกล่าว ในวันที่ 15 มีนาคม 2568 พลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ได้ร่วมแถลงข่าวพร้อมกับ พลตรี กิดากร จันทรา ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง และ นาวาเอก ภารกร มาเนียม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ถึงความสำเร็จในการ ตรวจยึดสารเสพติดน้ำหนักกว่า 1,061 กิโลกรัม โดยของกลางดังกล่าวถูกลักลอบซุกซ่อนในโกดังสินค้าแห่งหนึ่งใน ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีชายชาวจีนเป็นผู้ติดต่อขอเช่าโกดังเพื่อใช้เป็นจุดพักสินค้าก่อนส่งออกไปยังเมียนมา โดยแจ้งสำแดงว่าเป็นเครื่องจักร แต่เมื่อตรวจสอบกลับพบว่าเป็น สารเสพติดประเภท 4 ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำคัญในการผลิตยาเสพติด
การจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากความร่วมมือของ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำน้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.), และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ซึ่งช่วยขยายผลการสืบสวนและสกัดกั้นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ซึ่งจากข้อมูลการสืบสวนพบว่า หากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ สามารถถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายสูงถึง 18,716,980,300 บาท หรือกว่า 18,716 ล้านบาท
โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวชื่นชม “หน่วยซีล” นักรบพิเศษแห่งราชนาวีไทย ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเด็ดขาด พร้อมยกให้เป็นแบบอย่างให้แก่ นักรบพิเศษทุกเหล่าทัพ ในการร่วมกันสกัดกั้นและปราบปรามภัยคุกคามจากยาเสพติด “ถึงเวลาแล้วที่เรานักรบพิเศษของทุกเหล่าทัพและหน่วยปฏิบัติการพิเศษของตำรวจ จะต้องผนึกกำลังเพื่อปกป้อง