โซเชียลอาลัย “น้องเบนซ์” นักเรียนราชวินิตมัธยม เหยื่อถังดับเพลิงระเบิด พบเป็นเด็กเรียนเก่ง สนใจเรื่องการเงินและการลงทุน จนทำเพจ “วางแผนเรื่องเงินๆ” และมีผู้ติดตาม 1.4 พันคน
23 มิถุนายน 2566 ความคืบหน้ากรณีถังดับเพลิงระเบิดภายในโรงเรียนราชวินิตมัธยม ขณะการซักซ้อมอพยพหนีไฟ เป็นเหตุให้ “น้องเบนซ์” นักเรียนชั้น ม.6 เสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย นั้น
พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า “น้องเบนซ์” นั่งห่างถังที่ระเบิดเพียง 3 เมตร โดยระหว่างระเบิด ถังฉีกขาดทำให้ชิ้นส่วนของถัง พุ่งตรงเข้าไปที่ลำตัว รอยคมบาดลำตัวและเสียชีวิตทันที และ ทราบว่าน้องที่เสียชีวิต พ่อแม่ยากจน ปัจจุบันมีป้าคนหนึ่งรับอุปการะส่งเสีย เพราะเป็นเด็กดี เรียนดี เรียนเก่ง และเตรียมที่จะบวชภาคฤดูร้อนเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อแม่และป้าที่อุปการะ แต่เกิดเหตุดังกล่าวเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า “น้องเบนซ์” ยังทำเพจ “วางแผนเรื่องเงินๆ” ซึ่งมีผู้ติดตาม 1.4 พันคน โดยน้องเบนซ์ ได้เขียนบทความเกี่ยวกับการบริหารเงิน ลงบนเพจดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2566 ใจความว่า
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ตามที่ผมได้ให้สัญญาไว้บทความในครั้งนี้จะเกี่ยวกับ “การบริหารเงินของตัวผม”
ซึ่งประสบการณ์ของผมนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงวัยเด็กจวบจนปัจจุบันครับ ผมจะขอเล่าย้อนไปในช่วงวัยเด็ก สมัยนั้นเด็ก ๆ ทุกคนถูกพร่ำสอนการจัดการเงินด้วยวิธีง่าย ๆ นั่นคือรายได้-รายจ่าย=เงินออม ซึ่งวิธีนี้สามารถใช้ได้ครับแต่ หากเราใช้เงินที่ได้มานั้นหมดล่ะ แล้วเงินออมของเราจะเพิ่มพูนขึ้นจากเดิมได้อย่างไรและหากเด็กๆเหล่านั้นมีของที่อยากได้ล่ะ ไม่ว่าจะเป็น ของเล่น ขนมหลายห่อ หรือแม้กระทั่งการใช้เงินไปกับความพอใจต่าง ๆ และวัยเด็กของผมนั้นก็ใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับสิ่งที่กล่าวมา ซึ่งทำให้ผมในบางวันในแต่ละเดือนไม่มีเงินที่จะนำมาใช้ซื้ออาหาร
ตรงจุดนี้แหละครับทำให้ผมตระหนักเรื่องเงินออมหรือโดยส่วนตัวผมเรียกมันว่า “เงินกันตาย” เงินที่ผมจะเก็บออมนั้นจะเป็นเงินที่ใช้ยามฉุกเฉินซะส่วนใหญ่ในช่วงนั้นแต่ผมก็มีเก็บเพื่อที่อยากจะเห็นตัวเงินมีเยอะขึ้นจนพอใจ ในวัยเด็กผมบริหารเงินโดยถือคติว่า “เงินที่เสียไปจะไม่เป็นไรหากเราได้เงินมามากกว่า” หมายความว่า หากผมใช้เงินไป 50 บาท และผมได้เงินเพิ่ม 100 บาท = ผมไม่เสียเงิน
ใช่ครับมันเป็นวิธีคิดที่ไม่น่าดูชมเลยล่ะครับและจุดเปลี่ยนมาถึง เมื่อผมอายุ 11-13 ปี ผมตระหนักได้มากขึ้นและผมมีความตั้งใจที่จะออมเงินให้ได้ 10,000 บ. ในตอนที่จบป.6…. ใช่ครับ ผมสำเร็จในการเก็บเงินตามเป้าจากความตั้งใจและมุ่งมุ่นมากพอ และหลังจากนั้นผมก็ได้เข้าสู่โลก “การเงินและการลงทุน”
ในช่วงแรกเมื่อผมได้เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการเงินในแบบต่างๆซึ่งเป็นความเข้าใจหลักพื้นฐานทำให้ผมได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวผมในวัยเด็กเคยคิดเรื่องการจัดการเงินนั้นมีทั้ง ถูกและควรปรับปรุง หลังจากที่ผมมีความรู้ในเรื่องการจัดการเงิน บริหารเงิน ผมไม่รอช้าได้นำวิธีต่างๆมาปรับใช้เรื่อยมา ลองวิธีการต่างๆที่คิดว่าดี จนกระทั่งผมค้นพบวิธีที่เรียกว่า “ไห 6 ใบ” ซึ่งวิธีเหล่านี้แบ่งได้หลายแบบใครต้องการไหกี่ใบในการจัดการเงินโดยขั้นต่ำแล้วจะมีไห 4 ใบ “ไห 6 ใบ” หมายถึง การแบ่งเงินก้อนหรือรายได้ของเราออกเป็น 6 ส่วนดังนี้
1.ใช้ประจำวัน
2. ออมเงิน 3.ลงทุน 4.การศึกษา 5.บริจาค และสุดท้าย 6.ใช้ตามใจ โดยแบ่งออกเป็นสัดส่วนตามนี้ครับ
– 55% , 10% , 10% , 10% , 5% , 10% ตามลำดับ ซึ่งผมได้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตัวผมดังนี้ครับ – 55% , 15% , 5% , 5% , 5%, 15% = 100% แต่ผมนั้นเปลี่ยนจากการบริจาคเป็นสุขภาพ
โดยการจัดเงินแบบนี้ทำให้ผมนั้นเห็นตัวเงินได้ละเอียดยิ่งขึ้นว่าเรามีเงินแต่ละส่วนอยู่เท่าไหร่ ซึ่งจะต่างจากการใช้เงินเป็นก้อนเดียวกันเลยซึ่งจะทำให้เราไม่รู้ว่ามีเงินในส่วนต่าง ๆ ที่สามารถใช้ได้อยู่เท่าไหร่ หลักการ
“ไห 6 ใบ” ได้ทำให้ผมจัดการและบริหารเงินที่ได้ต่อเดือนได้เป็นอย่างดี
ผมได้เงินต่อเดือน 6,000 ซึ่งเงินในส่วนนี้ผมต้องใช้จ่ายดูแลตัวเองในทุกวันบางท่านที่อ่านมาอาจสงสัยว่าเงินที่ผมได้ต่อเดือนรวมค่าอาหารในแต่ละมื้อไหม คำตอบคือผมต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับ อาหารการกินทุกมื้อ สิ่งของต่าง ๆ รวมทุกค่าอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ ด้วยตัวผมเองทั้งหมดในแต่ละเดือน
หลักการ “ไห 6 ใบ” จึงเป็นคำตอบที่ใช่สำหรับผมในตอนนี้ที่ดีที่สุด ผมมีเงินออมประจำต่อเดือนที่ต้องแยกทันทีหลังได้เงินเดือน จากนั้นผมจะนำไปจัดสรรไว้ในส่วนต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้น วิธีการนี้เหมาะกับผู้คนที่ได้รับเป็นเงินก้อนไม่จะเป็น ต่อสัปดาห์ หรือ ต่อเดือน ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน
ผมอาจลืมบอกไปว่าตัวผมในตอนนี้เป็นนักเรียนธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่มีความสนใจด้าน การเงินและการลงทุนรวมถึงความรู้ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านเรื่องราวการจัดการเงินของผม ขุมทอง เปรมมณี (เบนซ์) ในบทความถัดไปจะเกี่ยวกับเรื่องใดขอให้ทุกท่านโปรดตั้งตารอคอยได้เลยครับ
ภายหลังผู้ติดตามเพจทราบข่าวการเสียชีวิต ได้เข้ามาแสดงความอาลัยเป็นจำนวนมาก อาทิ Rip นะคะน้องเบนซ์ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องด้วยค่ะ เข้ามาไล่อ่านเพจแล้ว สะเทือนใจและเสียดายในความสามารถและความคิดของน้องจริง, เขียนบทความได้ดีมากเลยครับ ขอให้น้องไปสู่ภพภูมิที่ดี หลับให้สบายนะครับ, น้องเก่งมากเลยนะคะ วางแผนชีวิตแต่เด็กเลย ขอให้ไปสู่สุคตินะคนเก่ง เป็นต้น