ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2566 อุบลราชธานี โดยนายชลธี ยังตรง ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ได้มอบหมายให้นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ย้ำเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน
ซึ่งขณะนี้ พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 มีผลบังคับใช้และมีการเพิ่มอัตราโทษกรณีเมาแล้วขับ เพิ่มโทษผู้กระทำผิดซ้ำข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา ทำผิดครั้งแรก มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หากทำผิดซ้ำข้อหาเมาแล้วขับ ภายใน 2 ปี นับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท
นอกจากกรณีเมาแล้วขับ ยังมีความผิดอื่น ๆ ที่กฎหมายมีอัตราโทษที่สูงขึ้นจากเดิมถึง 4 เท่า เช่น ขับรถเร็ว ขับรถฝ่าสัญญาณไฟจราจร ไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย เดิมปรับไม่เกิน 1,000 บาท เปลี่ยนแปลงเป็นปรับไม่เกิน 4,000 บาท ขับรถย้อนศร ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่สวมหมวกนิรภัย เดิมปรับไม่เกิน 500 บาท เปลี่ยนแปลงเป็นปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น จากโทษเดิมปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นโทษปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ขอให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปฏิบัติตามกฎจราจร รวมถึงปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการที่กำหนดไว้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน
