วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
หน้าแรกบันเทิงส่งดาวคืนฟ้า!อาลัยครั้งสุดท้าย พระเอกตลอดกาล ‘สรพงศ์ ชาตรี’

ส่งดาวคืนฟ้า!อาลัยครั้งสุดท้าย พระเอกตลอดกาล ‘สรพงศ์ ชาตรี’

-

อ่านข่าวนี้กดที่นี่

ยังคงเป็นประเด็นที่หลายคนสนใจอย่างมากมายสำหรับกรณีการเสียชีวิตของศิลปินแห่งชาติ นายกรีพงศ์ เทียมเศวต หรือ สรพงศ์ ชาตรี หรือ เอก อดีตพระเอกดังในใจคนไทยที่ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยโรคมะเร็ง ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้อง และคนในวงการ รวมไปถึงแฟนละครที่ติดตามมาตลอดหลายสิบปี ซึ่งล่าสุดวันนี้ 6 พฤศจิกายน จะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพที่ เมรุชั่วคราว มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในโลกออนไลน์ ได้มีการพูดถึงประเด็นนี้กันอย่างมากมายและร่วมกันระลึกถึงผลงานในดวงใจของสรพงศ์กันอย่างต่อเนื่อง และขอให้อดีตพระเอกดังไปสู่สุคติ งานนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” จึงขอชวนแฟนๆร่วมกันรำลึกถึงเขาอีกครั้งผ่านเรื่องราวในอดีตกว่าจะเป็น “สรพงศ์ ชาตรี” ในวันนี้กัน

กรีพงศ์ เทียมเศวต มีชื่อเดิมว่า พิทยา เทียมเศวต และเป็นที่รู้จักในชื่อ สรพงศ์ ชาตรี  ซึ่งเขาเกิดวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2492 เป็นนักแสดงชายชาวไทยที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในช่วงต้นยุค 70 (2514 คือ 1971) ถึงต้นยุค 90 (2533 คือ 1990) เขาได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง ในปี พ.ศ. 2551

บวชเรียนตั้งแต่อายุ 8 ปี ที่วัดเทพสุวรรณ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และวัดดาวดึงส์ ตำบลบางยี่ขัน อำเภอบางพลัด จังหวัดธนบุรี จนกระทั่งลาสิกขาบทเมื่อ พ.ศ. 2512 เมื่ออายุได้ 19 ปี จากนั้นสุรพงศ์ โปร่งมณี ได้พาไปฝากตัวกับหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งชักชวนให้มาอาศัยอยู่ที่วังละโว้ ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ และเข้าสู่วงการบันเทิงในเวลาต่อมา

ปี พ.ศ. 2552 สรพงศ์ ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ศิลปศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาและดำรงตำแหน่งประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (จากผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านศิลปะร่วมสมัย) สาขาศิลปะการแสดงในคณะกรรมการส่งเสริมศิลปะร่วมสมัย ทั้งนี้ สรพงษ์ ได้รับบทพระเอกเต็มตัวครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องที่ 4 คือเรื่อง มันมากับความมืด (พ.ศ. 2514) ผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม จากนั้นได้รับบทในภาพยนตร์ของหม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม แทบทุกเรื่องทั้งบทพระเอก พระรอง และเป็นผู้ช่วยผู้กำกับในบางครั้ง มีผลงานแสดงกว่า 500 เรื่อง ได้รางวัลตุ๊กตาทองครั้งแรกจากเรื่อง ชีวิตบัดซบ และ สัตว์มนุษย์ สองปีติดต่อกัน และมีชื่อเสียงในต่างประเทศจากเรื่อง แผลเก่า (พ.ศ. 2520) กำกับโดย เชิด ทรงศรี นับว่าประสบความสำเร็จสูงสุด

ด้านชีวิตส่วนตัว สรพงศ์ มีบุตรทั้งหมด 4 คน คือ พิมพ์อัปสร (ขวัญ), พิศุทธินี (เอิง), พิศรุตม์ (เอม) และพัทธกฤต (อั้ม) ซึ่ง พิมพ์อัปสร บุตรคนแรกเกิดกับ ทัศน์วรรณ เสนีย์วงศ์ ซึ่งเป็นนักแสดงหญิงและไม่ได้สมรสกัน ส่วนบุตรคนที่สองถึงสี่เกิดกับ พิมพ์จันทร์ เทียมเศวต (แอ๊ด) ภรรยาคนแรก ซึ่งสมรสและเลิกราไปแล้ว ต่อมาได้มาอยู่กินกับ ดวงเดือน จิไธสงค์ รองมิสไทยแลนด์เวิลด์ พ.ศ. 2529 และรองนางสาวไทย พ.ศ. 2530 โดยไม่มีบุตร-ธิดาด้วยกัน

ในวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2565 เวลา 15.51 น. สรพงศ์ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็งปอดหลังจากเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 สิริอายุ 72 ปี 3 เดือน ย่างเข้าปีที่ 73 ปี ท่ามกลางความอาลัยรักของแฟนๆทั้งประเทศที่ชื่นชอบผลงานของเขา

ขอขอบคุณภาพประกอบจากวิกิพีเดีย

คชสีห์นิวส์17
คชสีห์นิวส์17http://www.kochasrinews.com
บรรณาธิการข่าวต่างประเทศ

ข่าวยอดนิยมในสัปดาห์