สภา SMEs จับมือ บริษัท VGI และ BTS จัดโครงการ “กินของสวน ชวนเที่ยวนนท์” ณ สถานี BTS หมอชิต ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2565

สภา SMEs จับมือ บริษัท VGI และ BTS จัดโครงการ “กินของสวน ชวนเที่ยวนนท์”

วานนี้ วันที่ 22 มีนาคม 2565 สภา SMEs จับมือ บริษัท VGI และ BTS จัดโครงการ “กินของสวน ชวนเที่ยวนนท์” ณ สถานี BTS หมอชิต ระหว่างวันที่ 21-25 มีนาคม 2565 ดร. ศุภชัยแก้วศิริ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (SMEs)คุณอรนุช รุจิราวรรณผู้อำนวยการสำนักงานขาย บริษัท วีจีไอ จำกัด(มหาชน) คุณยุทธนากาญจนะโกมล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสินเชื่อสถาบันและผู้ประกอบการธนาคาร เพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จังหวัดนนทบุรี คุณวัชระ ถาวรวงศ์ หัวหน้ากองพัฒนาศักยภาพชุมชน สังกัดฝ่ายชุมชนสัมพันธ์โครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย คุณสว่าง จงประสิทธิ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (SME s) รศ.ดร.ถิรวัฒน์ แจ่มกระจ่างประธานอาวุโสและที่ปรึกษาสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (SMEs)ประธานเครือข่ายท้องถิ่น-ท้องที่ วิถีใหม่ วุฒิสภา จังหวัดนนทบุรี นางสาวกาญจนา ยงเสมอ ประธานสำนักพัฒนามาตรฐานสินค้าสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (SMEs) รองประธานเครือข่ายท้องถิ่น-ท้องที่วิถีใหม่ วุฒิสภา จังหวัดนนทบุรี นางสาวกชพร อัครประภาสกุล รองประธานสำนักทรัพย์สินทางปัญญา สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย
รองประธานเครือข่ายท้องถิ่น-ท้องที่วิถีใหม่ วุฒิสภา จังหวัดนนทบุรี คุณพวงเพ็ญ แสงเพชร กรรมการสำนักเลขาธิการสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย(SMEs) พท.ภ. ศิลป์ชัย อ้นอยู่ ประธานสภาเอสเอ็มอีจังหวัดนนทบุรี นายสมศักดิ์ งามสม เกล้า ประธานสภาเอสเอ็มอีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางพรไพลิน ทิพสุธันย์ ประธานสภา เอสเอ็มอีจังหวัดศรีสะเกษ และนางสาวศุถลักษณ์ รัตนศรี คณะทำงาน เข้าร่วมพิธีเปิดงาน กินของสวน-ชวนเที่ยวนนท์ ณ บริเวณทางเข้าสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต

สภาเอสเอ็มอีบูรณาการความร่วมมือยึดแนวทาง “บวร”วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจท่องเที่ยววิถีชุมชน

การมองชุมชนในทัศนะของ

รองศาสตราจารย์

ดร.ถิรวัฒน์  แจ่มกระจ่าง

สภาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมไทย

ทำไมชุมชนถึงมีความสำคัญรวมทั้งบทบาทในการขับเคลื่อนพื้นที่ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมของชุมชนถ้าสามารถทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง แข็งแรงยืนอยู่บนพื้นฐานการช่วยเหลือตัวเองได้ก็จะเป็นผลดีต่อการดำเนินชีวิตของคนในชุมชนอย่างยั่งยืนโดยใช้หลักการของ บ้าน วัด โรงเรียน (บวร)

โดยผสมผสานซึ่งกันและกันมีการ

บูรณาการให้สอดคล้องกับพื้นที่รวมทั้งอัตลักษณ์โดยสร้างจุดขายหรือมูลค่าที่ก่อให้เกิดรายได้กลับคืนเข้ามาสู่ชุมชนย่อมทำให้คนที่อาศัยในชุมชนมีความอยู่ดีกินดีและสามารถพึ่งพาตนเองได้ในระยะยาว

นส.กาญจนา ยงเสมอ

ประธานสำนักพัฒนามาตรฐานสินค้า

สภาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมไทย

ความสำคัญของสำนักพัฒนามาตรฐานสินค้าที่มีกับชุมชน

ความสัมพันธ์ของสำนักมาตรฐานสินค้าจะเป็นตัวกำหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมของสินค้าของชุมชนหรือผลิตภัณฑ์ของชุมชนให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นการยอมรับและสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อโดยมุ่งเน้นให้เกิดพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อยกระดับคุณภาพของสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดและสอดคล้องกับนโยบาย OTOP ที่ผลิตภัณฑ์แต่ละผลิตภัณฑ์ที่มีข้อกำหนดที่แตกต่างกันออกไป

นางสาวกชพร อัครประภาสกุล

รองประธานสำนักทรัพย์สินทางปัญญา

สภาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมไทย

ทรัพย์สินทางปัญญามีความสำคัญกับชุมชนอย่างไร

ทรัพย์สินทางปัญญาเปรียบเสมือนอาวุธที่สำคัญ ที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถโดยการเพิ่มคุณค่า และเสริมสร้างความแข็งแรงรวมทั้งความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหรือผลิตภัณฑ์ของชุมชน ภายใต้การแข่งขันในโลกยุคที่มีนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีการปรับเปลี่ยนจากเกษตรแบบดั้งเดิมที่มีรายได้น้อย ไปสู่เกษตรยุคใหม่ หรือสมัยใหม่ (Smart Farming)  และเป็นเกษตรกรแบบผู้ประกอบการ (Smart Enterprises) ที่มีรายได้สูง มีศักยภาพ มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สามารถพึ่งพาตัวเองได้ต่อไปด้วยทรัพย์สินทางปัญญา

ดร.ภูวาเดช โหราเรือง

ประธานสำนักพัฒนาทุนมนุษย์

สภาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมไทย

Script สำนักพัฒนาทุนมนุษย์ “ทุนทางปัญญากับการดำรงอยู่ของชุมชน”

ดร.ภูวาเดช โหราเรืองและคณะผู้บริหารสำนักฯ

องค์ความรู้ของชุมชนที่ถูกสั่งสมสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น ถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ภายในชุมชนที่นำไปสู่ภูมิรู้ของพื้นถิ่น โดยกว่า ๒ ทศวรรษที่ผ่านมา ได้มีการนำองค์ความรู้ของชุมชนมาบูรณาการต่อยอดให้กับสินค้าและบริการเพื่อเพิ่มคุณค่าและสร้างอัตลักษณ์ให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุมชนจนเกิดเป็นทุนทางปัญญาที่สามารถสร้างรายได้ซึ่งนำไปสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตลอดจนการพึ่งพิงตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรม

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ทำให้โลกเข้าสู่ภาวะ VUCA World อย่างเต็มรูปแบบ การณ์ดังกล่าวนี้ส่งผลผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งเป็น 1 ในภาคส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ จำเป็นต้องปรับกระบวนทัศน์ทางธุรกิจตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถทั้งในด้านการตลาดและการจัดการอย่างเร่งด่วน

ตามความที่กล่าวมานี้ สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย โดยสำนักพัฒนาทุนมนุษย์ มีความมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ของไทย ในการยกระดับสมรรถนะทางธุรกิจ ให้มีมโนทัศน์ในการตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายใต้บริบทของ VUCA World ได้อย่างทันท่วงที รวมถึง มีสมรรถนะในการก้าวข้ามกำแพงที่เป็นอุปสรรคทางธุรกิจที่มาในรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างชาญฉลาดไม่ว่าจะเป็น การ Disrupt ของเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับ Experience กับ Exchange ตลอดจน นวัตกรรมการแข่งขันระหว่างธุรกิจภายใต้ความเป็นปกติใหม่ หรือ New Normal