กองปราบ สนธิกำลังรวบหนุ่มใหญ่ เล่นอินสตราแกรม พฤติการณ์นำคลิปวีดีโอลามกอนาจาร และภาพของบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย มาข่มขู่เรียกเงินจำนวน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม พ.ต.อ.มนตรี เทศขัน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. ว่าที่พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แสนสุข เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ สตช. สนธิกำลังจับกุมตัวนายวรพตน์ฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดชลบุรีที่ จ.358/2564 ลงวันที่ 13 กันยายน 2564 ในความผิดฐาน “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และกรรโชกทรัพย์”
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการร้องเรียนผ่าน“เพจศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้างและผู้ร้ายสำคัญ” ว่ามีผู้ใช้บัญชีอินสตราแกรมชื่อ “โกโก้” ara1_234567890 มีพฤติการณ์นำคลิปวีดีโอลามกอนาจาร และภาพของบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้เสียหาย มาข่มขู่เรียกเงินจำนวน 200,000 บาท แลกกับการไม่ปล่อยคลิป และขอร่วมหลับนอนด้วย เมื่อผู้เสียหายไม่ยอมทำตาม คนร้ายจึงข่มขู่ต่อเนื่อง รวมถึงกดดันไปยังคนในครอบครัวและคนรอบข้าง จนทำให้เกิดความอับอายส่งผลต่อหน้าที่การงานและสภาวะจิตใจเป็นอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานโดยละเอียด จนกระทั่งทราบว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในครั้งนี้ คือนายวรพตน์ฯ อายุ 41 ปี และในวันที่ 22 ก.ย.2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้น สถานที่ต้องสงสัย จำนวน 2 จุดในพื้นที่ จ.ชลบุรี เพื่อเข้าไปดำเนินการตรวจสอบ และตรวจยึดสิ่งของที่มีไว้ หรือได้ใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับคดีนี้ ซึ่งสามารถจับกุมตัวนายวรพตน์ฯ พร้อมกับตรวจยึดของกลาง เป็นโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ apple รุ่นiphone 6 จำนวน 1 เครื่อง จึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.แสนสุข เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กองปราบปรามจึงขอฝากประชาสัมพันธ์และเตือนภัยว่าในปัจจุบันคนร้ายมักแฝงตัวมาในสื่อโซเชียล หรือเว็บไซต์หาคู่ ซึ่งจะทำการสร้างโปรไฟล์ที่ดูดี ทำทีพูดคุย หว่านล้อมด้วยคำพูดให้ดูน่าเชื่อถือ ทำให้ผู้ที่ใช้โซเซียล ตกเป็นเหยื่อ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทำการตรวจสอบ โปรไฟล์บุคคลหรือ พูดคุยให้แน่ใจว่าบุคคลนั้นมีตัวตนที่แท้จริงเป็นอย่างไร มีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ทั้งนี้ขอแจ้งเตือนไปยังกลุ่มมิจฉาชีพที่ฉวยโอกาสจากการใช้เทคโนโลยีเป็นช่องทางในการกระทำผิดกฎหมาย หากมีการเผยแพร่คลิป หรือนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ อาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากท่านตกเป็นเหยื่อ หรือพบเห็นพฤติการณ์ข้างต้น ให้แจ้งมาที่เพจกองบังคับการปราบปราม หรือสายด่วน 1195 หรือ สถานีตำรวจในท้องที่ที่รับผิดชอบ…………………………………………………………………………………….
ที่มาข้อมูลภาพข่าว: https://csd.go.th/
